พวกมองโกลทำการบุกเมืองตะโก้งแตก

โดยในปีคริสต์ศักราช1278 จึงส่งแม่ทัพนำกองทัพไปที่ป้อมปราการที่ชายแดนกองหนึ่งอีกอีกกองหนึ่งส่งไปยังป้อมกองซินชายแดนอย่างไรก็ดีพวกมองโกลก็ยังไม่พร้อมจน5ปีร่วงไปแล้วในระหว่างนั้นกษัตริย์พม่าส่งพระโอรส3พระองศ์ลงไปยังพม่าตอนล่าง

การบุกเมืองตะโก้งแตก เพื่อป้องกันมอญไม่ให้กบฏและเพื่อป้องกันไม่ให้พม่าตอนล่างจากพวกมองโกลหากกรุงพุกามแตกแม้ว่าพวกมองโกลจะดูสงบลงแต่พวกไทยหาเป็นเช่นนั้นไม่ พวกไทยที่รุกรานไปปะทะกับทหารพม่าเนืองๆทหารพม่าป้องกันตัวด้วยการติดตามผู้รุกรานไปยังดินแดนมองโกล

ส่วนในตระนาวสีพวกมอญได้ก่อการกบฏขึ้นในปีคริสต์ศักราช1283 กองทัพใหญ่ของพวกมองโกลรวมด้วยทหารไทยที่มาเสี่ยงโชคเข้ามายังดินแดนพม่าและเข้าโจมตีป้อมซองยานแตกและอีกสัปดาห์นึงต่อมาป้อมกองสินก็แตกพร้อมด้วยทหารอีกหมื่นคนที่ถูกฆ่าตาย

นอกจากนี้แม่ทัพพม่า2คนรวมไพรพลที่เหลือถอยกลับไปหวังไปยึดที่มั่นที่กรุงพุกามแต่ในขณะนั้นพระเจ้านรสีหบดีเสียกำลังใจแล้วจึงรีบหนีลงมาตามแม่น้ำอิรวดีการกระทำอันขี่ขาดเช่นนี้ทำให้พระองค์เป็นที่รู้จักในพงศาวดารต่อมาว่า กษัตริย์ผู้หนีจีนแม่ทัพใหญ่ถูกฆ่าตายในการรบ

ข่าวการตายของแม่ทัพพร้อมด้วยกษัตริย์จากกรุงพุกามทำให้กองทหารพม่าหวาดกลัวระส่ำระสายในวาระนี้ทางเข้าเมืองพุกามมก็เปิดอย่างสะดวกอย่างไรก็ดีพวกกมองโกลยังรีรอที่จะติดตามกองทัพพม่าไปยังกรุงพุกามเพราะอากาศแถบลุ่มแม่น้ำอิรวดีร้อนและชื้นเกินไปสำหรับชาวมองโกล

กองทัพมองโกลก็เสียหายอยู่มากแม้จะน้อยกว่ากองทัพพม่าก็ตามยังกว่านั้นกองทัพมองโกลอยู่ห่างจากฐานทัพที่มลฑณยูนานมากหากเดินทางลงใต้ไปอีกก็เท่ากับว่าเปิดโอกาสให้ทหารพม่าโจมตีแบบกองโจรได้ง่ายเข้าดังนั้นพวกมองโกลจึงส่งทูตไปยังพุกามอีกบังคับให้กษัตริย์ยอมแพ้

แต่ก็ไม่พบกษัตริย์ในระหว่างนั้นแม่ทัพนายกองพม่าแม้จะถูกกษัตริย์ทอดทิ้งไปแล้วก็รวมกำลังกันที่เมืองตะโก้งซึ่งเป็นป้อมแห่งเดียวที่ยังเหลืออยู่แต่กองทัพขาดอาวุธและเสียกำลังใจและในปีคริสต์ศักราช1284เมื่อพวกมองโกลไม่ได้รับการติดต่อจากกษัตริย์อีกเลย

จึงเปิดการโจมตีอย่างรุนแรงเมืองตะโก้งแตกอย่างรวดเร็วและลมมรสุมที่เกิดขึ้นเผอิญกรีดขวางพวกมองโกลไม่ให้เขากรุงพุกามพวกมองโกลเห็นว่าพวกพม่าหมดกำลังที่จะต่อต้านแล้วจึงประกาสรวมเอาพม่าตอนบนเข้าเป็นมลฑณใหม่ของจีนขนานนามว่ามลฑณพม่าที่กรุงตะโก้งเป็นเมืองหลวงพระเจ้านรสีหบดีทรงทราบว่าทูตมองโกลไม่พบพระองค์ที่กรุงพุกาม

 

สนับสนุนโดย.  สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ

ตำนานแห่งพ่อมดที่มีบันทึกในคัมภีย์ไบเบิ้ล

     สำหรับในบทความนี้เรายังจะมาพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อในสมัยโบราณโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของเวทมนตร์ซึ่งมีตำนานเล่าขานว่าในยุคโบราณนั้นมีคนที่มีอิทธิฤทธิ์ซึ่งคนในโบราณเรียกกันว่าพ่อมดหรือถ้าหากว่าเป็นผู้หญิงก็จะเรียกว่าแม่มดโดยนัยพ่อมดแม่มดนั้นจะมีตำนานเล่าขานตามคัมภีร์ไบเบิ้ล

สำหรับพ่อมดแม่มดที่เราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องของตำนานที่ปรากฏในคัมภีร์ไบเบิลนั้นมีอยู่ 2 คนด้วยกันนั่นก็คือพ่อมดไซม่อนมากัสและพ่อมดโซโลม่อนมาดูกันว่ารายละเอียดตำนานของทั้งสองพ่อมดนั้นเป็นอย่างไรบ้าง 

 ตำนานพ่อมด ไซมอน มากัส

ตำนานแห่งพ่อมด  ไซมอนมากัสไซม่อนหมากัดชาวคริสเตียนที่มีชื่อปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิลด้วยเขายังว่าตัวเองนั้นได้ครอบครองพลังวิเศษที่สามารถเหาะเหินเดินอากาศและเดินทะลุวัตถุได้จนทำให้เขาได้รับข้อกล่าวหาว่าเป็นปีศาจในร่างของมนุษย์และบท axisymmetric คัมภีร์ไบเบิลตามตำนานเรื่องเล่าว่าใส่ม่อนมีพลังวิเศษที่สามารถสร้างมนุษย์จากความว่างเปล่าได้ทำให้รูปปั้นมีชีวิตขึ้นและสามารถเรียกภูตผีปีศาจมาเป็นข้ารับใช้ได้ถึงแม้จะมีพลังเวทมนตร์ที่สูงส่ง

แต่แซลมอนก็เต็มไปด้วยความโลภในพลังอำนาจไม่จบสิ้นในบันทึกของนักบุญคลีเมนต์ได้กล่าวว่าไซม่อนได้เดินทางไปยังกรุงโรมเพื่อที่จะก่อตั้งศาสนาใหม่โดยจัดตั้งตนเองเป็นศาสดาแต่ก็ถูกขัดขวางโดยสาวกปีเตอร์ที่เกรงว่าการก่อตั้งศาสนาใหม่จะทำให้ชาวโรมันเกิดความล่าช้าในการยอมรับศาสนาคริสต์ทางด้านกษัตริย์ในโรงเรียนจากการประลองเวทมนตร์ทั้งสองขึ้นสุดท้ายใส่ม่อนก็พ่ายแพ้และไม่ฟื้นคืนชีพในที่สุด 

ตำนานพ่อมด โซโลม่อน 

 โซโลม่อนกษัตริย์ซาโลมอนเป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 3 แห่งอิสราเอลเชื่อกันว่าเป็นนักเวทย์มนต์ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเรื่องราวของโซโลมอนได้ปรากฏอยู่ในคัมภีร์โบราณคัมภีร์ไบเบิลฉบับพันธสัญญาเก่าและคัมภีร์อัลกุรอานของอิสลามในตำนานต่างๆยังได้กล่าวถึงการเข้าถึงพลังเหนือธรรมชาติเขาคือผู้ครอบครองแหวนวิเศษหรือ of Solomon จึงทำให้เขามีอำนาจเหนือปีศาจทั้งมวลบนแหวนวิเศษและประทับตราสัญลักษณ์ที่ได้ทำการร่ายเวทมนต์เอาไว้จึงเรียกว่าดาวแห่ง dawid

เมื่อพบว่ามีอำนาจเหนือปีศาจก็ได้นำมาเป็นบริวารให้กับตนเองและได้สั่งให้ปีศาจรับใช้ต้นด้วยการนำก้อนหินและแม่น้ำในดินแดนที่ห่างไกลมาตกแต่งสวนรวมไปถึงการหาสัตว์ที่หายากต่างๆมาเป็นอาหารสำหรับเขาในบางตำนานและยังกล่าวว่าปีศาจจึงถูกใช้ให้สร้างวิหารต่างๆอีกมากมาย 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ufabet เว็บตรง

วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

      วัดบวรนิเวศราชวรวิหารในเขตกรุงเทพฯนั้นแถวบริเวณบางลำภูซึ่งเป็นบริเวณตลาดที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯเป็นตลาดผ้าที่ได้รับความนิยมทั้งจากนักท่องเที่ยวและจากคนไทยด้วยกันเองอย่างไรก็ตามบริเวณดังกล่าวนั้นมีวัดแห่งหนึ่งซึ่งถือได้ว่าเป็นวัดที่มีความเก่าแก่

เป็นวัดพระอารามหลวงแห่งพระบรมราชวงศ์จักรีดังกล่าวนั้นจะอยู่ระหว่างถนนเฟื่องนครกับถนนตะนาวซึ่งวัดแห่งนี้นั้นถือว่าเป็นวัดชั้นเอกชนิดราชวรวิหารด้วยว่าที่เรากำลังพูดถึงเงินอยู่ในตอนนี้ก็คือวัดบวรนิเวศราชวรวิหารนั่นเอง

       สำหรับวัดแห่งนี้นั้นมีชื่อเสียงดังเกี่ยวกับเรื่องของพื้นที่ของตัววัดซึ่งมีพื้นที่ขนาดกว้างใหญ่มากนอกจากนี้สถาปัตยกรรมของโบสถ์วิหารต่างๆรวมถึงจิตรกรรมฝาผนัง ก็มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้กันเกี่ยวกับเรื่องของความงดงามวิจิตรบรรจงเนื่องจากว่าผู้ที่มีการออกแบบสถาปัตยกรรมศาสนสถานภายในวัดบวรนิเวศราชวรวิหารแห่งนี้นั้นมีการเอาแนวความคิดของชาติตะวันตกและชาติไทยรวมถึงชาติจีนมาผสมผสานกันจนเกิดเป็นศิลปะที่มีความงดงามลงตัวซึ่งบอกได้เลยว่าถ้าใครมาเห็นของจริงนั้นจะรู้เลยว่าที่นี่นั้นสวยงามเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

          อย่างไรก็ตามวัดแห่งนี้นั้นมีเรื่องเล่าและประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานมากมายเริ่มตั้งแต่ที่นี่เคยเป็นที่ทรงผนวชของพระมหากษัตริย์หลายพระองค์รวมถึงราชวงศ์สานุวงศ์หลายพระองค์เช่นเดียวกันและที่สำคัญพระมหากษัตริย์ก็เคยมาประทับที่วัดแห่งนี้เพื่อทำการบวชเรียนอีกด้วยอย่างไรก็ตามวัดแห่งนี้

นั้นมีทั้งศิลปะกรรมโบราณวัตถุรวมถึงมีสถานที่มีความเก่าแก่งดงามมีศิลปะวัตถุหลายสิ่งที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์เอาไว้ซึ่งที่นี่จึงได้มีการบำรุงทะนุถนอมสภาพของวัดให้มีความสมบูรณ์และอยู่ในสภาพดีอย่างสม่ำเสมอและ

           นอกจากนี้วัดแห่งนี้นั้นยังเป็นสถานที่ที่ให้บรรดานักศึกษาทั้งหลายเข้ามาศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับ  สล็อต ufabet เว็บตรง    เรื่องของศิลปวัตถุและโบราณวัตถุได้อีกด้วยเรียกได้ว่าที่นี่นั่นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากไม่ใช่เพียงแค่เป็นวัดที่เอาไว้ทำบุญหรือมาชมความงดงามของศาสนสถานเพียงอย่างเดียวแต่ยังเป็นศูนย์รวมของความรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมและเกี่ยวกับโบราณวัตถุศิลปวัตถุนั่นเอง 

          สำหรับใครที่ยังไม่เคยมีโอกาสเดินทางมาเที่ยวที่วัดแห่งนี้บอกได้เลยว่าคุณพลาดเป็นอย่างมากเลยทีเดียวลองหาเวลาว่างแวะมากราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดแห่งนี้รวมถึงมาชมความสวยงามอย่างเช่นพระอุโบสถซึ่งมีประวัติความเป็นมาวัดอุโบสถแห่งนี้นั้นสร้างขึ้นมาตามพระราชนิยมของรัชกาลที่ 3 โดยจะเห็นได้ว่าอุโบสถนั้นมีปีกยื่นออกมานอกจากนี้ยังมีเสาเหลี่ยมมีพาราย้อมซุ้มประตูหน้าต่างเรียกได้ว่างดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เลยทีเดียว

ประวัติอาชีพนักบินคนแรกของโลก 

        อาชีพนักบินเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าต้องทำงานอยู่บนเครื่องบินซึ่งมีเครื่องแบบแต่งกายที่โก้หรูนอกจากนี้อาชีพนักบินนั้นยังสามารถเดินทางไปยังประเทศต่างๆได้อย่างอิสระเสรีและมีเงินเดือนที่ค่อนข้างสูงทำให้หลายคนใฝ่ฝันว่าอยากจะสำเร็จการศึกษาและการเป็นนักบินที่สามารถขับเครื่องบินเดินทางจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่งได้

     ประวัติอาชีพนักบินคนแรกของโลก   อย่างไรก็ตามสำหรับอาชีพนักบินนั้นเป็นอาชีพที่ต้องมีความเฉลียวฉลาดและต้องมีความเป็นผู้นำสามารถกล้าตัดสินใจ

ในสถานการณ์ต่างๆได้ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าสายการบินของแต่ละประเทศนั้นมีมากมายหลายบริษัทด้วยกันแล้วแต่บริษัทนั้นก็จะมีนักบินที่ประจำเครื่องบินของบริษัทตนเองนั้นเป็นจำนวนมากมายหลายคนเลยทีเดียว  แต่คุณรู้ไหมว่ากว่าที่จะมาเป็นนักบินได้นั้นคนที่เป็นนักบินคนแรกของโลก

หรือเป็นคนแรกของประวัติศาสตร์ของโรคนั้นคือใครและต้นกำเนิดของการเป็นนักบินของโลกคนแรกนั้นเป็นมาได้อย่างไรซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดถึงนักบินคนแรกของโลกกันว่าเกิดขึ้นในช่วงเวลาไหนและเขาคือใคร 

        เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อ Wright  Brothers กันมาบ้างแล้วเพราะพวกเขาคือ สองพี่น้องตระกูลไรท์ พวกเขาคือ นักบินคนแรกของโลก

ต้นแบบเครื่องบินหลายรุ่นที่ปรับเปลี่ยนมาเรื่อยๆเริ่มต้นมาจากเครื่องบินลำแรกของโลกจากพี่น้องไบรท์พุทธิสารฝันมนุษย์หลายคนที่อยากจะบินขึ้นไปบนฟ้าโดยการสร้างเครื่องบินขึ้นมาแม้ว่าจะมีการสร้างผิดพลาดมาหลายครั้งแต่ก็ดัดแปลงอุปกรณ์ต่างๆจนเครื่องบินลำแรก

อย่างไร้สายสามารถบินขึ้นฟ้าสำเร็จในช่วงปี 1930 จ้างเครื่องบินแล้วพี่น้องไรต์ก็ต้องฝึกบินขึ้นไปบนฟ้าด้วยเช่นกันในช่วงแรกพวกเขาจะล้มเหลวหลายต่อหลายครั้งจนท้อแท้แต่พวกเขาก็สามารถขับเครื่องบินไฟนำขึ้นไปสำรวจท้องฟ้าได้อย่างมั่นคงในปี 1950 

      ในภายหลังพี่น้องไรต์ก็ประสบความสำเร็จไปอีกขั้นเพราะเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยจนรัฐบาลสหรัฐต้องยอมรับพัฒนาให้กลายเป็นธุรกิจการบินเดินทางข้ามประเทศในปี 1960

โดยใช้เครื่องบินที่สองพี่น้องไรต์ผลิตภายใต้ชื่อบริษัท  Wright Company และทั้งคู่ก็ยังเปิดโรงเรียนการบินสร้างนักบินมืออาชีพไม่สามารถขับเครื่องบินได้แพร่หลายมากขึ้นจนมีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงมากๆ  ufabet     และหนึ่งในนั้นก็คือ Henry Harley Anold ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาในสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเอง 

      อาจกล่าวได้ว่าถ้าไม่มีสองพี่น้องตระกูลไรต์นี้โชคของเราอาจจะยังไม่มีการโดยสารโดยเครื่องบินก็เป็นไปได้ซึ่งนับได้ว่าพวกเขาทั้งสองคนนั้นคือผู้บุกเบิกเกี่ยวกับของยานพาหนะบนท้องฟ้าหรือเครื่องบินโดยเฉพาะเลยทีเดียว