ประวัติความเป็นมาของตลาดนัดตุจักร

      บรรดาตลาดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก จตุจักร (หรือเรียกอีกอย่างว่า   ตลาดเจเจ  ดูเหมือนจะรวบรวมทุกสิ่งที่สามารถซื้อได้ ตั้งแต่รองเท้าผ้าใบวินเทจมือสองไปจนถึงสัตว์ต่างๆ เช่น ลูกกระรอก วางแผนจะใช้เวลาทั้งวันที่นี่ เนื่องจากมีสิ่งต่างๆ มากมายให้ดู ทำกิจกรรม และซื้อของ แต่ควรมาแต่เช้า ประมาณ 10.00 น.

เพื่อเลี่ยงกับรถติดและความร้อนอบอ้าว มีศูนย์ข้อมูลและธนาคารพร้อมตู้เอทีเอ็มและจุดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่สำนักงานสวนจตุจักรใกล้กับสุดด้านเหนือของซอย 1, ซอย 2 และซอย 3    แผนที่และห้องสุขามีอยู่ทั่วตลาด    คืนวันศุกร์ตั้งแต่ประมาณ 20.00 น.

ถึงเที่ยงคืน ผู้ขายหลายราย ส่วนใหญ่ขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ และอาหาร เปิดร้านในจตุจักร ในช่วงเช้าของวันธรรมดาจะมีแผงขายของอยู่บ้าง และมีตลาดผัก ต้นไม้ และดอกไม้อยู่ตรงข้ามฝั่งทิศใต้ของตลาดทุกวัน

ส่วนหนึ่งของหลังนี้เรียกว่าตลาด อ.ต.ก. ขายผลไม้และอาหารทะเลขนาดมหึมาอย่างน่าอัศจรรย์ และมีศูนย์อาหารที่ดีอีกด้วย    เมื่อดำดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของจตุจักรจะดูเหมือนไม่มีความเป็นระเบียบและไม่มีทางหลบหนี แต่ตลาดก็จัดเป็นส่วนที่ค่อนข้างสอดคล้องกัน ใช้หอนาฬิกาเป็นจุดสังเกตที่สะดวก   

ของเก่า หัตถกรรม และของที่ระลึก

ส่วนที่ 1 เป็นสถานที่สำหรับจัดแสดงรูปปั้นทางศาสนาที่เป็นสำริด แผ่นเสียงเก่า และวัตถุโบราณอื่นๆ ที่มีลวดลายทางศาสนา ศิลปะและงานฝีมือ เช่น เครื่องดนตรีและสินค้าของชาวเขาสามารถพบได้ในส่วนที่ 25 และ 26 บ้านสินไทยขายหน้ากาก  และของเล่นไทยสมัยก่อน ซึ่งทั้งหมดนี้ทำเป็นของที่ระลึกแสนสนุก และกิจเจริญ ดวงตรีเชี่ยวชาญ ในเครื่องดนตรีไทย

ได้แก่ ฟลุต นกหวีด กลอง และซีดีเพลงไทยคลาสสิก ของขวัญสุดแปลกอื่นๆ ได้แก่ ผักและผลไม้ไทยที่ทำจากพลาสติกเหมือนจริงที่ร้าน Marché หรือของจิ๋วขนาดจิ๋วใกล้ๆ ที่ Papachu   สำหรับสินค้าที่ไม่มีประโยชน์ใช้สอย Section 7 จะเป็นแกลเลอรีกลางแจ้งเสมือนจริง

เราชอบปริวัฒน์อนันทชินาเป็นพิเศษสำหรับจิตรกรรมฝาผนังในธีมกรุงเทพ ร้านค้าหลายแห่งในส่วนที่ 10 รวมถึงร้านทับทิมจำหน่ายเครื่องเขินพม่าทั้งใหม่และโบราณ Meng นำเสนอของโบราณสุดแหวกแนวที่เต็มไปด้วยฝุ่นจากทั้งไทยและเมียนมาร์

เสื้อผ้าและเครื่องประดับ

เสื้อผ้าครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของจตุจักร เริ่มตั้งแต่ส่วนที่ 8 และต่อเนื่องไปจนถึงส่วนที่เป็นเลขคู่ไปจนถึง 24 ส่วนที่ 5 และ 6 เป็นเสื้อผ้าที่ใช้แล้วสำหรับวัฒนธรรมย่อยของเยาวชนไทยทุกวัฒนธรรม ตั้งแต่พังก์ไปจนถึงคาวบอย ในขณะที่ซอย 7

ซึ่งตัดผ่านส่วนที่ 12 และ 14 ให้ความสำคัญกับแฟชั่นฮิปฮอปและสเก็ตใต้ดินมากขึ้น ป้ายกำกับอิสระที่ค่อนข้างซับซ้อนมากขึ้นสามารถพบได้ในส่วนที่ 2 และ 3 ในขณะที่เสื้อผ้าและสิ่งทอขนาดนักท่องเที่ยวอยู่ในส่วนที่ 8 และ 10  สำหรับเครื่องประดับ ร้านค้าหลายแห่งในส่วนที่ 24 และ 26 เช่น Orange Karen Silver เชี่ยวชาญด้านเครื่องประดับเงินก้อนใหญ่และหินกึ่งสังเคราะห์ที่ไม่ได้เจียระไน

การรับประทานอาหารและการดื่ม

การรับประทานอาหารและของว่างแบบไทยๆ จะช่วยคลายความโกรธจตุจักร (พฤติกรรมบ้าๆบอ ๆ ที่เกิดจากการขาดน้ำหรือหิว) และแผงขายอาหารจำนวนมากที่ตั้งร้านค้าระหว่างส่วนที่ 6 และ 8 ร้านที่โดดเด่นมายาวนาน ได้แก่ ฟอนตาล็อป

ร้านอาหารอีสานยอดนิยมอย่างไม่น่าเชื่อ คาเฟ่ไอซ์ ร้านอาหารฟิวชั่นไทย-ตะวันตกที่รสชาติดีเกินราคา ปาดไต และผลไม้เชครสอร่อย โต๊ะพลูซึ่งทำตามมาตรฐานไทยทั้งหมด และสมานอิสลาม ร้านอาหารไทยมุสลิมที่เสิร์ฟข้าวหมกบริยานีรสเด็ด Viva 8 มีดีเจและเชฟทำปาเอญ่าจานใหญ่ และเมื่อใกล้ค่ำแล้ว จิบเบียร์ที่ Viva’s คาเฟ่บาร์ที่มีดนตรีสด

ของใช้ในบ้านและของตกแต่งบ้าน

ตลาดฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะส่วนที่ 8 ถึง 26 เชี่ยวชาญด้านเครื่องใช้ในบ้านทุกประเภท ตั้งแต่ถังพลาสติกราคาถูกไปจนถึงกระทะทองเหลืองราคาแพง บริเวณนี้เป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการซื้อเครื่องเซรามิกไทยราคาไม่แพง ตั้งแต่ศิลาดลไปจนถึงชามรูปไก่แบบดั้งเดิมจากลำปาง    PL Bronze มีจานชามสแตนเลสหลากหลายประเภท และ Ton-Tan จำหน่ายจาน ชาม และเครื่องใช้อื่นๆ ที่ทำจากมะพร้าวและน้ำตาล  

ผู้ที่ต้องการเติมสีสันให้บ้านควรแวะที่ Spice Boom เพราะคุณสามารถหาสมุนไพรแห้งและเครื่องเทศสำหรับบริโภคและประดับตกแต่งได้ การดมกลิ่นที่โดดเด่นอื่นๆ ได้แก่ สบู่ทำมือ โลชั่น เกลือ และสครับที่ D-narn และน้ำหอมและน้ำมันหอมระเหยที่กลิ่นหอมของ AnyaDharu Scent Library

สัตว์เลี้ยง

การเดินช้อปปิ้งตามร้านที่สนุกที่สุดอาจเป็นได้คือการลูบไล้ลูกสุนัขและลูกแมวตัวน้อยในส่วนที่ 13 และ 15 ซอย 9 ของซอย 9 ในอดีตมีร้านค้าหลายแห่งที่จำหน่ายเสื้อผ้าสำหรับสัตว์เลี้ยงเพียงอย่างเดียว เป็นที่น่าสังเกตว่าในอดีตส่วนนี้มีความเกี่ยวข้องกับการขายสัตว์ป่าผิดกฎหมาย แม้ว่าการค้าส่วนใหญ่จะถูกผลักดันไปใต้ดินก็ตาม

พืชและการจัดสวน

ขอบด้านในของส่วนที่ 2 ถึง 4 มีกระถางต้นไม้ ดอกไม้ สมุนไพร ผลไม้ และอุปกรณ์ต่างๆ มากมายที่จำเป็นในการดูแลรักษา ร้านค้าเหล่านี้หลายแห่งเปิดทำการในวันพุธและพฤหัสบดีเช่นกัน

 

สนับสนุนโดย    gclub ผ่านเว็บ

กรุงโรม ของทวีปยุโรป เป็นเมืองโบราณที่มีประวัติยาวนาน

กรุงโรม เป็นเมืองโบราณที่มีประวัติยาวนานและมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของทวีปยุโรป โรมเป็นสถานที่ตั้งของอัศวินโรมัน องค์การปกครองที่รุกไปยังอีสเตอร์โรมัน และส่วนใหญ่ของอิตาลีในยุคโบราณ นอกจากนี้ยังมีผลกระทบสำคัญทางวัฒนธรรมและการพัฒนาทางการเมืองของโลกตะวันตก

ที่มาของกรุงโรมสร้างขึ้นบนสองด้านของแม่น้ำทีเบรียส (Tiber River) ในบริเวณที่เรียกว่า “สามพันปีน” (Seven Hills) ทั้งนี้เพื่อรับรองความปลอดภัยและการต่อสู้กับศัตรู ตั้งแต่ช่วงที่ 8 ถึง 10 ทศวรรษก่อนคริสต์ศักราช กรุงโรมเริ่มเจรจากการรวมตัวของชุมชนและกลุ่มชนที่ต่างกัน และพัฒนาขึ้นเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่

ต้นกำเนิดของกรุงโรมสามารถพบได้ในตำนานโรมันที่รู้จักกันดี เรื่องราวของนักกวีที่หลงไปยังดงพระราชวังและเจอ “ลูปัส” (Lupus) และ “เรมุส” (Remus) ที่ถูกนำดูแลโดยนายท้องถิ่น อธิกสุรทินแม่หญิงแห่งการดวงดาว เมื่อโรมูลส์คิดว่านำนายจะทรงอำนวยประโยชน์แก่เขามากกว่า เขาทรงกำเนิดกรุงโรมบนลูปัสเสมอ และต่อมาเรมุสก็ทำเช่นเดียวกัน

กรุงโรมในยุคต้น ๆ เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมันและเจริญรุ่งเรื่องราวด้านทหาร การปกครอง และวัฒนธรรม  gclub ฝาก-ถอน    ซึ่งส่งผลให้เกิดความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและสังคม ยอดสมบัติและสถาปัตยกรรมโบราณของกรุงโรม ได้รับความสนใจมากจากนักท่องเที่ยวและนักประวัติศาสตร์ตลอดเวลา

กรุงโรมและอาณาจักรโรมันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งและเต็มไปด้วยความสำคัญในประวัติศาสตร์โลก นี่คือบางประการที่ควรรู้เกี่ยวกับกรุงโรม

1.รากฐานของกรุงโรม สมมติฐานเกี่ยวกับลูปัสและเรมัสนั้นมีอยู่ในตำนานโรมันและเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวสร้างกรุงโรม ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนว่าเรื่องราวนี้เป็นจริงหรือไม่ แต่มีความน่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม

2.ระบบการปกครอง อาณาจักรโรมันมีระบบการปกครองที่เปลี่ยนแปลงมาก ตั้งแต่ระบบราชวงศ์สมเด็จ (monarchy) ไปจนถึงระบบสาธารณรัฐ (republic) และสุดท้ายก็เป็นระบบจักรวรรดิ (empire) โรมัน

3.นักบุญเจ้าหลวง ในประวัติศาสตร์โรมันมีนักบุญเจ้าหลวงหลายคนที่มีบทบาทสำคัญ ได้แก่ จูลิอุส ซีซาร์ ออกตามประสาเนตร เป็นต้น

4.สงครามพันธมิตร การต่อสู้ระหว่างกรุงโรมและพันธมิตร (The Punic Wars) ระหว่างโรมันและการ์ทาจีน (Carthage) เป็นการประวิตรรมที่มีผลกระทบสำคัญต่ออาณาจักรโรม

5.สถาปัตยกรรม กรุงโรมนั้นมีสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่และน่าทึ่ง เช่น อังกฤษโรมัน (Roman Forum) และพันธมิตรโรมัน (Roman Colosseum)

6.ประชากรและสังคม สังคมโรมันมีความหลากหลายทั้งทางวัฒนธรรม และคลาสสังคม มีทั้งชนชั้นอัศวิน (patricians) และประชาชน (plebeians) ซึ่งมีความแตกต่างกันทั้งในสิทธิและการเข้าถึงทรัพยากร

7.ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์กรุงโรมสร้างอยู่บนสองด้านของแม่น้ำทีเบรียสที่เป็นทางเดินการค้าที่สำคัญและช่วยในการขยายตัวของอาณาจักร

การล่วงล้ำและการตกขอบโรมันเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ที่ทำให้อาณาจักรล่วงล้ำ และสุดท้ายตกอย่างสิ้นเชิงในศตวรรษที่ 5

สิ่งมหัศจรรย์ของโลก มหาพีระมิดแห่งกีซา

คำว่า “มหาพีระมิดแห่งกีซา” น่าจะเป็นการระบุถึงมหาพีระมิดที่สำคัญในประวัติศาสตร์ทางศิลปะและวัฒนธรรมของอียิปต์ มีมหาพีระมิดหลายแห่งที่มีความสำคัญต่างๆ ในประวัติศาสตร์ แต่อย่างไรก็ตาม มีมหาพีระมิดที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดและมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ

 

1.มหาพีระมิดของคีออปส์ (Khufu) หรือพีระมิดของเจ้าแรม

เป็นมหาพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดในกีซาและเป็นหนึ่งในสิบสองสิบสามพีระมิดสีปีกที่ตั้งอยู่ในลากูปควีปในปี 2560 ก่อนคริสตกาล (ก่อสร้างโดยฟาโรของเยอรมัน) มีส่วนสูงถึง 146.6 เมตร (481 ฟุต) และเป็นที่รู้จักในนาม “พีระมิดของเจ้าแรม” หรือ “พีระมิดของคีออปส์” นอกจากนี้ยังมีการสงวนพื้นที่ในมหาพีระมิดนี้ที่มีช่องว่างและทางเดินภายในที่เป็นปริมาณมากทำให้นักวิจัยและนักท่องเที่ยวมีความสนใจมาก

2.มหาพีระมิดของคีฟรีเรน (Khafre) หรือพีระมิดของแว่นทราย

อยู่ทางตะวันตกของพีระมิดของคีออปส์ มีความสูง 136.4 เมตร (447 ฟุต) และมีหน้าม้านั่งที่ประดับด้วยหน้าคีฟรีเรนที่สร้างความประทับใจ มีทางเดินที่ชื่อว่า “ทางเดินขึ้นบันได” ที่มีรูปแบบของลิงชนิดหนึ่ง

3.มหาพีระมิดของเม็นกาเกมมา (Menkaure)

เป็นมหาพีระมิดที่น้อยที่สุดในสามพีระมิดในกีซา มีความสูงประมาณ 65 เมตร (213 ฟุต) และมีรูปปั้นของเม็นกาเกมมาและพระแม่ของเขา

4.ปีระมิดของเคฟเรน (Djoser)

เป็นมหาพีระมิดที่สุดแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยนักราชการอาณาจักรเคมีตรงปีระ มีลักษณะเป็นบันไดลาดเป็นระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ และมีโครงสร้างที่สร้างขึ้นจากหินในลาด

 การก่อสร้างพีระมิดในกีซามีความหลากหลายในลักษณะการสร้าง โครงสร้างขนาดใหญ่นี้เป็นผลมาจากความพิถีพิถันในการให้การพระราชสำนักและตัวบ่งชี้อย่างมีคุณภาพทางสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม

มหาพีระมิดแห่งกีซามีความน่าสนใจมากมายทั้งในด้านประวัติศาสตร์, สถาปัตยกรรม, และวัฒนธรรม นี่คือบางข้อมูลที่ทำให้มหาพีระมิดแห่งกีซาน่าสนใจ

1.สถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่

มหาพีระมิดแห่งกีซาต้องการความพิถีพิถันในการก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อน การนำหินมาสร้างและการจัดสร้างโครงสร้างที่มีขนาดใหญ่อาจทำให้คนตะลุยในยุคนั้นต้องมีความชำนาญและความรู้ทางวิศวกรรมที่สูง

2.ความลึกและความลับ

มหาพีระมิดบางแห่งมีทางเดินภายในที่ลึกลับ และมีห้องฝังศพที่บรรจุสิ่งของมีค่าและประทับใจนี้ทำให้มีความน่าสนใจในการค้นพบและการศึกษาโครงสร้างข้างใน

3.ศิลปะและรูปปั้น

มหาพีระมิดมักมีรูปปั้นและภาพวาดที่ประดับไปด้วย รูปแบบของรูปปั้นและลวดลายนั้นสะท้อนความเชื่อทางศาสนาและวัฒนธรรมของกลุ่มคนที่สร้างมหาพีระมิดนั้น

4.การวิจัยและการค้นพบใหม่

การสำรวจมหาพีระมิดยังเป็นที่น่าสนใจทางวิทยาศาสตร์ การใช้เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อค้นพบข้อมูลในภายในพีระมิดและที่รอบๆ มีการส่งเสริมการวิจัยในหลายด้าน

5.นักท่องเที่ยวและท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม

มหาพีระมิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและเป็นที่นิยมในทุกวัย นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมของกีซาโบราณ และสำรวจความภูมิใจของชาวอียิปต์โบราณ

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย   gclubเครดิตฟรี50

กำเนิดระบบสุริยะ ของโลก

เมื่อประมาณ 4,600,000,000 ปีที่แล้ว โลกของเราได้ทำการเกิดระบบหนึ่งที่สร้างกลุ่มที่เกิดฝุ่นและแก๊สในระบบสุริยะ ของระบบอวกาศที่เรียกว่าเนบิวลาสุริยะ สสารค่อยๆรวมตัวกันจนมีความหนาแน่นมากขึ้น บริเวณที่มีความหนาแน่นสูงสุดจะกลายเป็นศูนย์กลางของระบบ

กำเนิดระบบสุริยะ ของโลก ความรุนแรงที่เกิดจากแรงโน้มถ่วง โดยอยู่ในศูนย์กลาง ส่งผลให้มีการดึงดูดโดยรอบเข้าสู่ศูนย์กลางบริเวณที่ทำให้เกิดแรงโน้มถ่วง

จากนั้นก็ทำการก่อตัวขนาดใหญ่และหมุนเวียนเป็นวง โดยทำการป้อนสิ่งที่เราเรียกว่ามวลสารเพื่อให้เข้าสู่ใจกลาง โดยพวกเราเรียกขนาดนี้ว่าดวงอาทิตย์

 ก่อนที่กระบวนการสสารที่มันยังคงทำงานเพื่อดึงดูดสสารต่อไป ทำให้ดาวเคราะห์มีการก่อตัวขึ้นจากแหล่งหินและบรรดาฝุ่น บริเวณวงแหวนที่เป็นใจกลางของแกนกาแล็กซี่ จากนั้นมันจะทำการรวมตัวกัน ทำให้รวมตัวกันเป็นก้อนหินที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และกลายเป็นก้อนน้ำแข็งในที่สุด

 ระบบที่มีขนาดเล็กพวกมันจะคอยทำหน้าที่ดึงดูดมวลสารต่างๆ เพื่อนำเข้ามารวม ตรงที่เป็นใจกลางของมัน

โดยทางระบบจะให้พลังงานสูงและมีความร้อนสูงมากขึ้นเรื่อยๆ จึงมีผลต่อสสารที่อยู่ล้อมรอบหรือใกล้ๆ นั่นจึงทำให้มีแค่เพียงสิ่งที่เป็นวัตถุประเภทหินและเหล็กเท่านั้น ที่มันยังคงสภาพเหมือนเดิม และจากนั้นมันจะเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นที่รั้กในชื่อดาวเคราะห์หินของเรานี่เอง

 และนอกจากนั้นจะมีส่วนอื่นที่อยู่ไม่ใกล้นักจะเต็มไปด้วยเหล่าสสาร ได้แก่แก๊ส น้ำแข็ง และน้ำแข็งมีเทน โดยมันทำการก่อตัวขึ้นที่เราเรียกว่าดาวเคราะห์แก๊สนั่นแหละ โดยจะรวมดาวเหล่านี้ว่า ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัสและดาวเนปจูน และเมื่อใจกลางของระบบเหล่านี้มีความร้อนที่สูงขึ้น จะส่งผลให้เหล่าไฮโดนเจนทำการหลอมรวมตัวกันเป็นฮีเลี่ยม

และทำให้มีพลังงานที่มากๆเราจะเรียกพลังงานนี้ว่า ปฏิกิริยานิวเคลียฟิวชั่น โดยมันเกิดจากการสร้างและการผลักแงต้านทานที่การยุบตัวลง คงเพราะว่าแรงที่เกิดแรงโน้มถ่วงมีสภาวะที่สมดุลขึ้น นั่นจึงทำให้ดวงอาทิตย์มีสภาพที่เป็นแบบนี้จนถึงณะตอนนี้

 

ufabet   จากที่ Protostar ได้ทำการก่อตัวที่รวมเป็นกลุ่มเมฆจะทำให้มีความหนาแน่ และส่งผลทำให้ร้อน จนทำให้เมฆมีสสารที่ลดลงจนเหลือเพียงแค่ 0.1 เปอร์เซ็นต์  เท่านั้นโดยรวมแด้วยแก๊สและฝุ่นรวมเข้าด้วยกันจนแน่น ทำให้มีการก่อตัวขึ้นเป็น แผ่นดิสก์หมุนอยู่รอบๆ Protosta แห่งนี้ โดยมันมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า เนบิวลาสุริยะ

 และนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายมีความเชื่อกันว่าอนุภาคของฝุ่นเหล่านี้รวมเข้ากับอนุภาคที่เป็นน้ำแข็งนั้น มันกำลังย้ายหรือขยับ นั่นจงส่งผลให้มันมีการชนกัน บางคตรั้งก็สามารถที่จะรวมเข้าด้วยกันเป็นก้อนที่มีขนาดใหญ่ และเราจะก็เห็นการรวมตัวนี้ที่เรียกว่าการสะสมของแกนกลาง

 ด้วยวิธีนี้นี่เองดาวเคราะห์และดวงจันทร์ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหางจึงถูกสร้างขึ้น ลมสุริยะจะกวาดเอาทาสไฮโดรเจน และ ฮีเลี่ยมที่มีน้ำหนักเบาออกไปไกลจากดวงอาทิตย์จะเพียงวัสดุโลหะและหินที่มีน้ำหนักมาก เพื่อสร้างดาวเคราะห์ชั้นในหรือดาวเคราะห์ปก เช่นโลก ดาวพุทธ ดาวศุกร์ และดาวอังคาร

ประวัติวัดศรีบุญเรือง จังหวัดเชียงราย

          สำหรับในบทความนี้เรามาพูดถึงเรื่องราวของประวัติความเป็นมาของวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในจังหวัดเชียงราย  โดยวัดที่เรากำลังจะพูดถึงนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของตำบลเวียง อำเภอเมือง โดยวัดแห่งนี้นั้นมีชื่อเรียกว่าวัดศรีบุญเรืองซึ่งวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ช่วงประมาณปีพุทธศักราช 1982 

        ประวัติวัดศรีบุญเรือง อย่างไรก็ตามด้วยความเก่าแก่ของวัดที่มีการสร้างมาอย่างยาวนานทำให้วัดนั้นมีสภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลา  

และทำให้ต่อมาวัดดังกล่าวนั้นกลายเป็นวัดร้างไม่มีพระจำพรรษาอยู่สภาพของวัดจึงยิ่งทรุดโทรมมากขึ้นกว่าเดิมมีต้นไม้ปกคลุมขึ้นอย่างหนาแน่นอย่างไรก็ตามหลังจากที่วัตถุปล่อยให้ร้างอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่งก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเมื่อทางคุ้มเจ้าหลวงได้เข้ามาใช้งานพื้นที่ของวัดร้างดังกล่าวปรับเปลี่ยนให้มาเป็นโรงเรียนเพื่อให้เด็กๆได้ศึกษาหาความรู้โดยจัดตั้งขึ้นเป็นโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์นอกจากนี้ทางคุ้มเจ้าหลวงก็ได้มีการบูรณะซ่อมแซมวัดศรีบุญเรืองขึ้นมาใหม่อีกด้วย 

       หลังจากที่มีการบูรณะซ่อมแซมวัดขึ้นมาใหม่และได้มีการก่อตั้งโรงเรียนเพื่อเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ให้กับบรรดาเด็กแล้ววัดแห่งนี้ก็ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา  โดยมีการพระราชทานในช่วงประมาณปีพุทธศักราช 2489 

  อย่างไรก็ตามหลังจากวัดได้มีการถูกบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ก็มีสิ่งก่อสร้างอาคารต่างๆเกิดขึ้นมามากมายไม่ว่าจะเป็นศาลาพักร้อนรวมถึงศาลาการเปรียญนอกจากนี้ยังมีพระอุโบสถและหอฉันรวมถึงหอระฆังและกุฏิพระสงฆ์ซึ่งแต่ละแห่งนั้นก็มีสถาปัตยกรรมที่มีการสร้างเอาไว้อย่างสวยงาม

            สำหรับสถาปัตยกรรมส่วนไหญ่ที่มีการก่อสร้างอุโบสถและศาลาการเปรียญนี้ล้วนจัดเป็นสถาปัตยกรรมล้านนาดังนั้นวัดแห่งนี้จึงถือได้ว่าเป็นวัดที่มีความเก่าแก่และมีความงดงามเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามวัดแห่งนี้ยังได้มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นมาซึ่งมีชื่อว่าพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นโดยถูกสร้างเอาไว้ที่บริเวณด้านหลังของวัดโดยประชาชนหรือแม้แต่นักเรียนนักศึกษาสามารถแวะเวียนเข้าไปศึกษาหาความรู้ที่พิพิธภัณฑ์ดังกล่าวได้ 

         เนื่องจากวัดศรีบุญเรืองนั้นมีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าศึกษาหาความรู้ดังนั้นจึงมักมีนักท่องเที่ยวและนักเรียนนักศึกษาเป็นจำนวนมากที่เดินทางไปศึกษาหาข้อมูลที่วัดศรีบุญเรืองเพราะนอกจากจะมีความเกี่ยวพันกับทางประวัติศาสตร์และยังมีความงดงามเหมาะแก่การที่จะเข้าไปเยี่ยมชม

สำหรับใครที่สนใจอยากจะเข้าไปเยี่ยมชมความสวยงามของวัดศรีบุญเรืองก็สามารถเดินทางไปได้ทุกวัน ซึ่งค้นหาข้อมูลการเดินทางไปที่วัดศรีบุญเรืองได้จากทาง Google Map หรือจะเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง Facebook ของวัดศรีบุญเรืองก็ได้

อรุณรุ่งแห่งพุทธประทีป หรือจุดเริ่มต้นของความศรัทธาทางด้านศาสนาในยุคหริภุญไชยนคร 

อรุณรุ่งแห่งพุทธประทีป สำหรับความเชื่อความศรัทธาของผู้คนนั้นเรามักจะเห็นได้ว่าผู้คนส่วนใหญ่ที่เป็นคนในสมัยโบราณและไม่ได้มีการร่ำเรียนเกี่ยวกับเรื่องของศาสนาก็มักจะมีการนับถือบูชาภูตผีปีศาจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสมัยโบราณนั้นมักจะนับถือบูชาภูตผีบรรพบุรุษของตนเองนั่นก็คือปู่ย่าตายายที่เสียชีวิตไปแล้วโดยคนสมัยยุคของหิริภุญชัยนครนั้นก็เป็นอีกยุคสมัยหนึ่งที่มีการบูชาผี

เนื่องจากว่าคนสมัยโบราณไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องของศาสนาต่างๆและคนพื้นเมืองส่วนใหญ่ก็เป็นชาวเมืองรั่วซึ่งแต่เดิมนั้นก็มีการบูชาเสาสกังหรืออีกชื่อหนึ่งก็คือเสาอินทขีลนั่นเอง

ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของจุดเริ่มต้นของความศรัทธาทางด้านศาสนาของคนในยุคสมัยหริภุญชัยนครหรือเรียกว่าในยุคนี้ถือว่าเป็นยุคอรุณรุ่งแห่งพุทธประทีปนั่นเอง 

จากประวัติความเป็นมาของประวัติศาสตร์ของยุคสมัยหริภุญชัยนั้นได้มีการบันทึกเอาไว้ว่าแต่เริ่มเดิมทีก่อนหน้าที่จะมีการสร้างเป็นเมืองหริภุญชัยนั้นผู้คนไม่ได้มีการนับถือศาสนาใดๆทั้งสิ้น

จนต่อมาได้มีนักโพสต์เดินทางมาที่เมืองหริภุญชัยโดยนักโทษคนดังกล่าวนั้นได้นำเอาศาสนาพราหมณ์มาเผยแพร่หลังจากนั้นก็มีการสร้างเมืองหริภุญชัยขึ้นมาจากการรวบรวมประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวหลังจากนั้นพื้นที่ดังกล่าวก็สู่เข้ายุคคาริบนชัยอย่างสมบูรณ์

อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการเข้ามาของศาสนาพราหมณ์แล้วก็มีการเปลี่ยนผ่านศาสนา  โดย  เครดิตฟรี gclub   เปลี่ยนจากการมานับถือศาสนาพราหมณ์มาเข้าสู่ช่วงการนับถือนิกายลังกาวงศ์นอกจากนี้ยังมีนิกายรามัญวงศ์

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าในยุคสมัยดังกล่าวนั้นเมืองหริภุญชัยนั้นเรียกได้ว่ามีศาสนาทุกลัทธิเข้ามาเผยแพร่เลยก็ว่าได้นอกจากนี้ศาสนาดังกล่าวนั้นยังมีการเผยแพร่ไปยังเมืองอื่นๆไม่ว่าจะเป็นในร้านช้างหรือในร้านนารวมถึง สิบสองปันนาอีกด้วย 

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีลัทธิหรือศาสนามากมายหลายศาสนาเข้ามาในยุคสมัยของหริภุญชัยนครแต่ศาสนาพุทธเองก็เข้ามาเจริญรุ่งเรืองในช่วงยุคสมัยดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกันซึ่งจะเห็นได้จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีการขุดพบพระบรมสารีริกธาตุที่บริเวณวัดพระธาตุหริภุญชัย

โดยเป็นพระธาตุที่อยู่กลางเมืองจากการตรวจสอบพบว่ามีการสร้างมาในช่วงศตวรรษที่ 16-17 ในสมัยของพระยาอธิราชดังนั้นนี่คือหลักฐานชั้นยอดที่แสดงให้เห็นได้ว่าในยุคของหริภุญชัยนั้นก็มีการนับถือศาสนาพุทธและมีการสถาปนาศาสนาพุทธเป็นแห่งแรกของทางภาคเหนือนั่นเอง 

ประเพณีชักพระทอดผ้าป่าและแข่งเรือยาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี

         สำหรับในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักประเพณีของจังหวัดสุราษฎร์ธานีซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเพณีที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวที่มักจะเดินทางไปเที่ยวในช่วงที่มีการจัดประเพณีนี้กันซึ่งโดยปกติแล้วการตัดนั้นจะจัดเป็นประจำทุกปีโดยจะมีการจัดในช่วงประมาณเดือนตุลาคม

ประเพณีชักพระทอดผ้าป่า ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะจัดในช่วงที่ใกล้วันออกพรรษาโดยปกติแล้วการจัดงานนั้นจะมีการจัดขึ้น 9 วัน 9 คืนเลยทีเดียว

         สำหรับประเพณีที่เราพูดถึงที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีการจัดขึ้นมานั่นก็คืองานประเพณีชักพระรวมถึงทอดผ้าป่าและแข่งเรือยาวซึ่งจะมีผู้คนเป็นจำนวนมากที่จะพากันเดินทางไปร่วมงานประเพณีนี้โดยทางจังหวัดจะมีการจัดขึ้นแถวบริเวณริมแม่น้ำตาปี

เป็นการจัดเทศกาลอย่างยิ่งใหญ่อลังการเลยทีเดียวซึ่งชาวบ้านในพื้นที่และชาวบ้านในจังหวัดใกล้เคียงก็จะพากันเดินทางไปทำบุญและมีการทำกิจกรรมร่วมกัน  

         นอกจากนี้ชาวบ้านทั้งจังหวัดของสุราษฎร์ธานีจะออกมาช่วยกันจัดเตรียมแต่งเรือพนมพระทางบกและเรือพนมพระทางน้ำซึ่งถือว่าเป็นประเพณีที่สำคัญเป็นอย่างมากของจังหวัดโดยจะมีการตกแต่งเรืออย่างประณีตวิจิตรบรรจงและงดงามมีการนำไฟนำสิ่งของต่างๆมาตกแต่งให้เกิดลวดลายที่มีความคิดแนวสร้างสรรค์และจินตนาการล้ำเลิศ

         นอกจากนี้ยังใช้ของภายในท้องถิ่นหรือเรียกได้ว่าภูมิปัญญาของชาวบ้านมาใช้ในการประดับตกแต่งหรือ  gclub casinoทดลองเล่น  อาจจะมีการตกแต่งในรูปแบบของสัตว์ในวรรณคดีก็มีเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามประเพณีนี้จะมีการตกแต่งเรือมากกว่า 100 ลำเลยทีเดียวที่จะมาใช้ในการร่วมแห่ขบวนสมโภชซึ่งโดยปกติแล้วในการแห่ขบวนสมโภชนั้นจะมีการจัดขึ้นในวันแรม 1 ค่ำเดือน 11 นั่นเอง 

          นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถร่วมทำบุญกับชาวบ้านในการตกแต่งพุ่มผ้าป่าเพื่อทำบุญโดยเงินรายได้จากการทำบุญนั้นก็จะนำไปบริจาคให้กับองค์กรต่างๆและสถาบันการศึกษารวมถึงวัดวาอารามต่างๆเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนานั่นเองอย่างไรก็ตามนอกจากจะมีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับทางด้านพระพุทธศาสนาแล้ว

ยังมีการจัดแข่งขันเรือยาวซึ่งนักท่องเที่ยวจะเพลินเกี่ยวกับการแข่งเรือและยังมีการจัดซุ้มอาหารคอยบริการนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบอาหารของทางภาคใต้

           นอกจากนี้ยังมีสินค้า OTOP และสินค้าพื้นบ้านมาวางขายเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดเรียกได้ว่างาน 9 วัน 9 คืนนั้นนักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมนิทานจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีการจัดขึ้นและเที่ยวอย่างไม่รู้เบื่อกันเลยทีเดียว สำหรับใครที่ว่างและไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีก็สามารถไปร่วมกิจการงานประเพณีที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้

การเพิ่มขึ้นของวัฒนธรรมป๊อปเกาหลี

การเพิ่มขึ้นของวัฒนธรรมป๊อปเกาหลี ดาราของประเทศได้แทรกซึมเข้าไปในดนตรี ทีวี ความงาม และแฟชั่นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในเดือนพฤศจิกายน 2012 มิวสิกวิดีโอของนักร้องชาวเกาหลีใต้ เจปาร์ค หรือที่รู้จักกันในชื่อ Psy กลายเป็นวิดีโอที่มีผู้ชมมากที่สุดใน YouTube วิดีโอนี้สร้างขึ้นเพื่อประกอบเพลง “กังนัมสไตล์”

ซึ่งเป็นเพลงป๊อปที่ติดหูที่สร้างความสนุกสนานในย่านที่ร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงโซล วิดีโอดังกล่าวครองตำแหน่งที่มีผู้ชมมากที่สุดเป็นเวลา 5 ปี ผลักดันให้ YouTube เพิ่มขีดจำกัดจำนวนการดู 10 ปีต่อมา วิดีโอ “กังนัมสไตล์” มีผู้เข้าชมเกือบ 4.5 พันล้านครั้ง

ความสำเร็จระดับโลกของ Psy มักจะถูกมองว่าเป็นช่วงเวลาที่วัฒนธรรมป๊อปเกาหลีก้าวไปสู่เวทีตะวันตก และในวงกว้างกว่านั้นคือจุดเปลี่ยนสำหรับ “ฮันรยู” หรือที่รู้จักในชื่อ “กระแสเกาหลี” ซึ่งเป็นคำในภาษาจีนที่หมายถึงความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นของเพลงป๊อปเกาหลีใต้ วัฒนธรรมทั่วโลก

ทุกวันนี้ วัฒนธรรมเกาหลีแพร่หลายไปทางตะวันตกมาก จนไอดอลเคป๊อปได้รับเชิญไปที่ทำเนียบขาวเพื่อพูดเกี่ยวกับการต่อต้านอาชญากรจากความเกลียดชังชาวเอเชียและการเป็นตัวแทนของชาวเอเชีย เช่นเดียวกับวงป๊อปชื่อดังอย่าง BTS ในเดือนมิถุนายน ดาราเคป๊อปเป็นทูตระดับโลกของแบรนด์หรู

เช่น Dior, Louis Vuitton, Tiffany & Co, Céline และในกรณีของกลุ่มผู้หญิงล้วน Blackpink, Bulgari; ซีรีส์เกาหลีอย่าง Squid Game ของ Netflix ทำลายสถิติผู้ชม และภาพยนตร์เกาหลีอย่าง Parasite ของ Bong Joon-ho ก็คว้ารางวัลจากกระแสหลัก ในปี 2020

มูลค่าการส่งออกเนื้อหาทางวัฒนธรรมของเกาหลีใต้ ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ และการแพร่ภาพกระจายเสียง มีมูลค่าสูงถึง 11.92 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ซึ่งเพิ่มขึ้น 16.3 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไปในปี 2012 ทางตะวันตกไปงานปาร์ตี้สาย วัฒนธรรมป็อปของเกาหลีใต้เริ่มแพร่กระจายไปทั่วเอเชียหลังวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2540 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการส่งออกละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ สิ่งเหล่านี้เริ่มได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลหลังจากเปลี่ยน

จากการลงทุนในการผลิตขนาดใหญ่ ภายใต้ประธานาธิบดีคิม แดจุง ซึ่งเข้ารับตำแหน่งในปี 2541 รัฐบาลจัดสรรเงิน 148.5 ล้านดอลลาร์ให้กับกฎหมายพื้นฐานฉบับใหม่สำหรับการส่งเสริมอุตสาหกรรมวัฒนธรรม ซึ่งอธิบายการส่งเสริมอุตสาหกรรมว่าเป็น “ความรับผิดชอบของรัฐ”

ธนาคารเพื่อการลงทุนและกลุ่มบริษัทเอกชนหรือที่รู้จักในชื่อ แชโบล (Chaebols) หลั่งไหลเข้ามาในภาคส่วนนี้โดยมองเห็นโอกาสใหม่ ๆ ในการหาเงิน เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มักถูกรุกรานแต่ไม่ค่อยมีบทบาทเป็นผู้รุกราน เกาหลีใต้ยังได้รับประโยชน์จากความเมตตากรุณาทางภูมิรัฐศาสตร์

ซึ่งถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามในภูมิภาคเอเชียน้อยกว่าประเทศต่างๆ เช่น จีนหรือญี่ปุ่น ก็เรียกได้ว่า หากไม่มีองค์ประกอบเหล่านี้ ฮันรยูคงไม่ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ufabet เว็บตรง

ความคล้ายคลึงกันที่พบระหว่างวัฒนธรรมของเกาหลี

ความคล้ายคลึงกัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาภาษาต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมณีปุระ ประเทศอินเดีย เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านภาษาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเดลีในปี 2555 เธอเคยทำงานในเดลีในฐานะอาจารย์รับเชิญที่มหาวิทยาลัยเดลีและเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยเทคนิคอุตตรประเทศก่อนเข้าร่วมมหาวิทยาลัยมณีปุระ

เธอมีประสบการณ์ในการสอนภาษาศาสตร์ การสื่อสารระดับมืออาชีพ และภาษาเกาหลี งานวิจัยที่เธอสนใจ ได้แก่ การสอนและการเรียนรู้ภาษาเกาหลี, จิตวิทยาภาษาศาสตร์, เอกสารประกอบภาษา เธอยังทำงานเกี่ยวกับการศึกษารูปแบบไวยากรณ์ภาษาเกาหลีและภาษามณีปุรีที่เปรียบเทียบกันอีกด้วย

พยายามเน้นถึงความสำคัญของแนวคิดทางวัฒนธรรมในขณะที่สอนการเรียนรู้ภาษาเกาหลีในฐานะภาษาต่างประเทศ

การรวบรวมคุณสมบัติบางอย่างที่คล้ายคลึงกันที่พบในทั้งวัฒนธรรมเกาหลีและ Meitei เป็นผลมาจากกระบวนการสอนวัฒนธรรมเกาหลีอย่างต่อเนื่องแก่นักเรียนของ B.A. (เกียรตินิยม) ภาษาเกาหลีในมหาวิทยาลัยมณีปุระ

สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความแตกต่างของแนวคิดทางภาษาและวัฒนธรรมของเกาหลีเพื่อให้การพัฒนาทักษะภาษาเกาหลีมีความหมาย

บทบาทของวัฒนธรรมในการเรียนรู้ภาษา แน่นอนว่าในการเรียนรู้ภาษานั้นก็เพื่อการสื่อสารเพื่อตอบสนองการพูดคุยให้สามารถพูดคุยได้อย่างเปิดใจและตรงไปตรงมา ทุกชุมชนล้วนมีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเองที่สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตของชุมชนนั้นๆ

ภาษามีส่วนช่วยในด้านการสื่อสารของวัฒนธรรมใด ๆ พึงระลึกว่าการสื่อสารเกิดขึ้นในรูปแบบวาจาและอวัจนภาษา นี่หมายความว่าทั้งภาษาและวัฒนธรรมมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ดังนั้นภาษาจึงไม่สามารถสอนโดยแยกจากกันเพราะภาษามีที่นั่งในวัฒนธรรม โดย  ufabet บาคาร่า    แนวคิดทางภาษาศาสตร์จำนวนมากมาพร้อมกับความหมายแฝงทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแง่มุมที่ไม่ใช่คำพูดของการแสดงออก เช่น รูปแบบการสื่อสารแบบพาราลิงจิสติกส์

ในความเป็นจริงการสื่อสารของมนุษย์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นผ่านรูปแบบที่ไม่ใช่คำพูดเมื่อเทียบกับรูปแบบคำพูดหรือคำพูด บางครั้งอาจเป็นกรณีที่แนวคิดทางวัฒนธรรมหนึ่งในภาษาหนึ่งอาจไม่แสดงออกด้วยวาจาในอีกภาษาหนึ่ง

ดังนั้นการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับการเปรียบเทียบวัฒนธรรมพื้นเมืองของผู้เรียนและวัฒนธรรมเป้าหมายจึงเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาในพื้นที่เพื่อให้ผู้เรียนซึมซับคำศัพท์ที่สำคัญของวัฒนธรรมเป้าหมายได้ และยังเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจไม่ใช่เพียงในเรื่องของภาษาเท่านั้น

แต่ยังเข้าถึงทุกสิ่งที่เป็นชนชาตินั้นๆได้อย่างมากขึ้น ความสำคัญของการเรียนรู้แนวคิดทางวัฒนธรรมในขณะที่เรียนภาษาเกาหลี การเรียนรู้ภาษาใหม่จะแนะนำวัฒนธรรมของภาษาใหม่โดยอัตโนมัติตั้งแต่บทเรียนแรก

มันกลายเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องแนะนำความแตกต่างพื้นฐานทั้งหมดของวัฒนธรรมเป้าหมายตั้งแต่เริ่มต้น โดยมีจุดประสงค์เพียงอย่างเดียวคือลดข้อผิดพลาดใดๆ ที่เกิดจากผู้เรียนในขณะที่เรียนภาษาใหม่ ต่อไปนี้เป็นหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมบางส่วนซึ่งสอนตั้งแต่บทเรียนเริ่มต้น

ตำนานหลวงพ่อปากแดง วัดพราหมณี จังหวัดนครนายก 

        เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของหลวงพ่อปากแดงกันเป็นอย่างดีเนื่องจากว่ามีชื่อเสียงของความศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการขอโชคลาภขอหวยซึ่งในแต่ละวันนั้นมักจะมีผู้คนเดินทางไปที่วัดพราหมณีเพื่อขอพรกับหลวงพ่อปากแดงดังนั้นในวันนี้เราจะมาพูดถึงประวัติของหลวงพ่อปากแดงกันว่ามีประวัติความเป็นมายังไงบ้าง

         สำหรับตำนานของหลวงพ่อปากแดงนั้นได้รับการบอกกล่าวมาจากเจ้าอาวาสวัดพราหมณีซึ่งก็คือพระครูโสภณพามาคุณหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าหลวงพ่อตี๋ง

ตำนานหลวงพ่อปากแดง   ซึ่งได้พูดถึงเกี่ยวกับตำนานเรื่องของหลวงพ่อปากแดงที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ

ว่าหลวงพ่อปากแดงนั้นเป็นพระพุทธรูปที่เดิมนั้นประดิษฐานอยู่ที่จังหวัดหนองคาย  หลวงพ่อปากแดงนั้นมีพระพุทธรูปที่เป็นพี่น้องกันอีก 2 รูปด้วยกันซึ่งในขณะนั้นประดิษฐานอยู่ด้วยกันที่วัดเดียวกันก็คือหลวงพ่อพระสุกกับหลวงพ่อพระใส

       อย่างไรก็ตามตามตำนานในการเล่าว่าก่อนที่พระพุทธรูปทั้ง 3 รูปนี้ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อปากแดงหรือแม้แต่หลวงพ่อพระสุกและหลวงพ่อพระใสนั้นแต่เดิมไม่ได้อยู่ที่วัดในจังหวัดหนองคายแต่อยู่ที่นครเวียงจันทน์ซึ่งพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์นี้ได้รับการอัญเชิญมาให้มาที่ประเทศไทย

หลังจากที่อัญเชิญมาเสร็จเรียบร้อยแล้วพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ก็ถูกแยกย้ายไปประดิษฐ์ฐานไปอยู่ตามวัดต่างๆซึ่งพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ก็ได้แยกย้ายออกจากกันโดยหลวงพ่อปากแดงนั้นก็ถูกอัญเชิญมาไว้ที่วัดพราหมณีซึ่งในครั้งแรกนั้นเป็นการอัญเชิญเพื่อมาหยุดพักบริเวณที่ว่างเพียงเท่านั้นแต่หลังจากนั้นก็มีการอัญเชิญให้ประดิษฐานอยู่ที่วัดพราหมณีแบบถาวร 

             โดยหลังจากที่หลวงพ่อปากแดงมาประดิษฐานอยู่ที่วัดพราหมณีก็ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวบ้านเป็นอย่างมาก

ทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อปากแดงนั้นโด่งดังไปทั่วโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชาวบ้านมาขอโชคลาภก็มักจะสมหวังตามที่ขอจึงมักมีคนมาทำการแก้บนหลังจากนั้นก็เริ่มมาทำการขอหวยแล้วมีคนถูกหวยก็มาแก้บนยิ่งทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อปากแดงยิ่งกังวาลไกลไปทั่วจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเอง 

         ตามความเชื่อของชาวบ้านมีการเชื่อกันว่าหลวงพ่อปากแดงนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมากมักจะช่วยเหลือให้ชาวบ้านที่มาขอพรประสบความสำเร็จในสิ่งที่ได้มีการร้องขอและต้องการโดยชาวบ้านมักจะมีการนำดอกไม้ธูปเทียนมาถวายหลวงพ่อปากแดงซึ่งหลวงพ่อปากแดงนั้นเป็นพระพุทธรูปที่สร้างด้วยโลหะสำริดเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ

       สำหรับจุดเด่นของหลวงพ่อปากแดงนั้นจะมีพระโอษฐ์ที่แย้มยิ้มมีสีแดงที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนนอกจากนี้จีวรยังเป็นลายดอกพิกุลและเป็นพระพุทธรูปที่สร้างด้วยศิลปะสมัยล้านช้างทำให้หลวงพ่อปากแดงนั้นเป็นที่สะดุดตาอย่างมาก       

 

สนับสนุนเนื้อหาจาก  สล็อต ufabet เว็บตรง