โรงแรมดัง ใช้รถแทรกเตอร์ขุดหลุมฝังขยะตรงบริเวณริมหาดถูกนักท่องเที่ยวแอบถ่ายนำมาโพสต์ประจานในโลกออนไลน์ 

  ใช้รถแทรกเตอร์ขุดหลุมฝังขยะ   นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดเพชรบุรีโดยจุดที่เขาไปเที่ยวและถ่ายรูปเอาไว้นั้นเป็นจุดตรงบริเวณริมหาดชะอำซึ่งนักท่องเที่ยวรายนี้ได้เห็นว่าตรงบริเวณริมชายหาดนั้นมีคนยืนอยู่ 3 คนและมีรถแทรกเตอร์อยู่อีก 1 คัน

ซึ่งบนรถแทรกเตอร์นั้นมีคนงานขับอยู่ชาวต่างชาติคนนี้จึงได้มีการถ่ายคลิปเอาไว้ซึ่งในคลิปจะเห็นได้ว่ารถแทรกเตอร์คันดังกล่าวได้มีการขุดหลุมตรงบริเวณริมหาดเป็นขนาดใหญ่

         หลังจากนั้นก็มีการดันขยะลงไปในหลุมแล้วใช้ทรายกดปิดปากลงอีกทีนึงทำให้นักท่องเที่ยวรายนี้รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมากกับวิธีการกำจัดขยะของโรงแรมชื่อเสียงโด่งดังในจังหวัดเพชรบุรีซึ่งแน่นอนว่าคลิปนี้ถูกนำไปโพสต์ในทวิตเตอร์

และมีการแชร์กันต่อเป็นจำนวนมากเมื่อมีคนไทยเข้ามาเห็นคลิปดังกล่าวต่างก็ออกมาวิจารณ์ถึงเรื่องนี้กันอย่างมากโดยทุกคนนั้นต่างก็ไม่พอใจกับพฤติกรรมของการทิ้งขยะกำจัดขยะของทางโรงแรมเพราะการที่ขุดหลุมฝังขยะไว้ใต้ทรายหากมีน้ำทะเลหนุนสูงขึ้นน้ำทะเลก็จะซัดมาตรงบริเวณที่ฝังขยะและอาจจะส่งผลทำให้ขยะลอยเกลื่อนท้องทะเลก็เป็นได้ 

        สำหรับทวิตเตอร์ดังกล่าวมีการโพสต์ไปเมื่อวันที่ 24 เดือนตุลาคม ปีพ.ศ. 2564 ซึ่งทวิตเตอร์นี้เป็นเวลาที่มีการพูดถึงเป็นอย่างมากเลยทีเดียวอย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่นานทางด้านเจ้าของโรงแรมชื่อดังก็ออกมาชี้แจงกับปัญหาที่เกิดขึ้น

โดยทางโรงแรมแจ้งว่าปกติแล้วทางโรงแรมจะแจ้งบริษัทรับเหมาในการช่วยกำจัดขยะซึ่งทางโรงแรมนั้นไม่ทราบมาก่อนว่าทางบริษัทที่มีการทำสัญญารับเหมากำจัดขยะนั้นจะมีพฤติกรรมมักง่ายเอาขยะไปทิ้งในหลุมทรายแบบนี้ซึ่งหลังจากที่ทางโรงแรมทราบเรื่องก็มีการยกเลิกสัญญากับบริษัทดังกล่าวทันที

          พร้อมกันนี้ทางโรงแรมยังได้ออกมาขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนอกจากนี้ทางโรงแรมยืนยันว่าจะมีการจ้างบริษัทรับเหมารายใหม่และจะมีการดูแลและสอดส่องพฤติกรรมของพนักงานรับเหมาไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้อีก

  อย่างไรก็ตามพฤติกรรมนี้เป็นหนึ่งใน พฤติกรรมที่ทำให้ท้องทะเลนั้นมีขยะลอยมาติดฝั่งเป็นจำนวนมากซึ่งจะเห็นได้ว่าถ้าหากใครไปเที่ยวทะเลโดยเฉพาะอย่างยิ่งทะเลพัทยาและชะอำนั้นเมื่อมีคลื่นกระทบฝั่งแรงๆก็มักจะพัดเอาขยะจากท้องทะเลมาทิ้งไว้ตรงบริเวณชายหาดเยอะมากซึ่งทำให้ทัศนียภาพริมชายหาดนะไม่สวยงามส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวที่ลดลง

 

สนับสนุนโดย.   ufabet ฝากถอน ไม่มีขั้นต่ำ ออโต้

นักเรียนจากบึงกาฬรวมตัวกันประท้วงขับไล่ผอ. หื่นกาม

       นักเรียนจากบึงกาฬรวมตัวกัน  เมื่อที่ 27 เดือนมกราคมปีพศ. 2565 ได้มีเหตุการณ์อื้อฉาวเกิดขึ้นในจังหวัดบึงกาฬเมื่อมีนักเรียนรวมถึงผู้ปกครองและครูภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งได้ออกมารวมตัวพากันประท้วงเพื่อขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียน  ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่และย้ายไปที่อื่นสาเหตุนั่นก็เพราะว่าก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการโรงเรียนรายนี้ได้ย้ายมาอยู่โรงเรียนแห่งนี้ได้ประมาณ 2 ปีแล้วก็เรื่องอื้อฉาวร้ายแรงเกิดขึ้นโดยผู้อำนวยการโรงเรียนได้มีการแอบไปดูคุณครูสาวซึ่งพักอาศัยอยู่ในบ้านพักภายในเนื้อโรงเรียนอาบน้ำในช่วงเวลากลางคืน

          นอกจากนี้เมื่อถูกจับได้ก็ยังมีการยอมรับด้วยความหน้าชื่นตาบานว่าตนเองนั้นเป็นคนแอบดูครูสาวอาบน้ำเองทำให้ครูสาวที่ถูกแอบดูในขณะอาบน้ำนั้นอับอายและไม่มีกำลังใจที่จะสอนเด็กนักเรียนนอกจากนี้เมื่อครูสาวได้มีการส่งหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานเขตเรื่องกับเงียบหายไปทำให้ครูสาวนั้นรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นครู

           เมื่อเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปเด็กนักเรียนและผู้ปกครองรวมถึงคุณครูคนอื่นๆต่างก็ไม่พอใจกับพฤติกรรมของผู้อำนวยการโรงเรียนจึงพากันออกมารวมตัวกันประท้วงซึ่งเหตุการณ์นั้นรุนแรงมากเพราะเด็กทุกคนนั้นแสดงความไม่พอใจมีการนำภาพขอผู้อำนวยการโรงเรียนมาเหยียบย่ำทำลายมาเขียนป้ายด่าทอนอกจากนี้ยังมีการตะโกนขับไล่ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนออกจากโรงเรียนซึ่งคำด่าที่มีการด่าผู้อำนวยการโรงเรียนนั้นมีแต่ถ้อยคำต่อว่าอย่างหยาบคาย  

         อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่ทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้ไปแอบดูคุณครูสาวอาบน้ำนั้นมีหลักฐานเป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งภายในโรงเรียนซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนนั้นวิ่งหนีหลังจากที่มีครูเวรมาตรวจสอบเนื่องจากว่าครูสาวขณะอาบน้ำนั้นผิดสังเกตว่ามีคนมาแอบดูจึงได้มีการโทรตามครูเวรให้มาตรวจตราบริเวณด้านหลังของห้องน้ำแล้วก็เจอเป็น ผอ. นุ่งผ้าขนหนูวิ่งหนีเข้าไปในบ้านพักจึงเป็นที่มาของการจับผอ. หื่นได้ในครั้งนี้นั่นเอง 

         อย่างไรก็ตามสำหรับเหตุการณ์นี้ถ้ามีหลักฐานชัดเจนจากกล้องวงจรปิดทางด้านหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องของกระทรวงศึกษาธิการควรจะต้องมีการมาตรวจสอบและเข้ามาช่วยเหลือคุณครูสาวกับเหล่าบรรดานักเรียนเพราะถ้าหากปล่อยเรื่องนี้ให้เงียบไปผู้อำนวยการโรงเรียนรายนี้ก็จะมีการกระทำการแบบเดิมกับคุณครูหรือเด็กนักเรียนคนอื่นๆอีกซึ่งถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างยิ่งและการลงโทษผู้อำนวยการโรงเรียนคนนี้ก็ไม่ควรที่จะเป็นการย้ายไปอยู่โรงเรียนอื่นเพราะก็จะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับโรงเรียนอื่นดังนั้นสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดก็คือการเดินโทษด้วยการไล่ออกจากการเป็นคุณครูจากการทำงานราชการจึงถือว่าเป็นบทลงโทษที่ดีที่สุด         

 

สนับสนุนโดย.    ufabet ทางเข้าเล่น

สลดควายพ่อพันธุ์ไล่ขวิดเจ้าของจนเสียชีวิต

 

            สลดควายพ่อพันธุ์ไล่ขวิด   ที่จังหวัดอุทัยธานี มีเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เดือนมกราคม ปีพ.ศ. 2565  เมื่อมีชายคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านหินงามได้เกิดอุบัติเหตุที่หน้าเศร้าสลดใจเกิดขึ้นเมื่อเขาถูกควายที่เขาเลี้ยงเอาไว้ไล่ขวิดจนเสียชีวิตโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต

นั้นได้มีการเลี้ยงควายเอาไว้จำนวนเกือบ 20 ตัวด้วยกันซึ่งเป็นการเลี้ยงควายพ่อพันธุ์โดยควายแต่ละตัวที่ถูกนำมาเลี้ยงนั้นจะซื้อมาตั้งแต่ควายเหล่านี้ยังตัวเล็กๆและแต่ละตัวนั้นก็ซื้อมาราคาเกินกว่าครึ่งล้านเลยทีเดียว

       อย่างไรก็ตามผู้เสียชีวิตกับควายพ่อพันธุ์ที่ตนเองเรียนนั้นคลุกคลีและสนิทสนมกันเป็นอย่างดีควายนั้นค่อนข้างเชื่องและไม่เคยดูมาก่อนเลยปกติแล้วผู้เสียชีวิตมักจะพาควายออกไปกินหญ้ากลางทุ่งนาอยู่เป็นประจำอย่างไรก็ตามในวันที่เกิดเหตุนั้นอยู่ดีๆควายก็เกิดคุณค่าขึ้นมาหลังจากนั้นก็วิ่งไล่ขวิดเจ้าของของตนเองซึ่งทางด้านเจ้าของเองก็พยายามวิ่งหนีแต่ก็ไม่สามารถวิ่งหนีพ้นถูกผิดจนมีบาดแผลตามร่างกายเต็มไปหมด

      หลังจากที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตเหตุการณ์ต่างก็พากันเข้าไปช่วยเหลือโดยมีการแยกดึงกับควายพ่อพันธุ์ที่กำลังครูข้างเอาไว้และพาผู้เสียชีวิตซึ่งได้รับบาดเจ็บอยู่ในขณะนั้นกลับมาที่บ้านพักหลังจากนั้นก็มีการโทรตามกู้ภัยให้ช่วยมารับตัวไปส่งโรงพยาบาลแต่กู้ภัยยังเดินทางมาไม่ถึงผู้บาดเจ็บก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตก่อนกู้ภัยจะมาถึง

            เบื้องต้นทางด้านเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ของอำเภอได้ลงพื้นที่มาทำการตรวจสอบควายที่ก่อเหตุเจ้าของเสียชีวิตในครั้งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วและได้มีการสอบถามชาวบ้านรวมถึงญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตซึ่งได้ความว่าตัวที่เกิดผู้เสียชีวิตนั้นเป็นควายพ่อพันธุ์และเป็นจ่าฝูง

โดยปกติแล้วควายตัวนี้มีนิสัยเชื่องและสนิทสนมกับผู้ตายเป็นอย่างดีเพราะเลี้ยงกันมาตั้งแต่เด็กแต่ช่วงนี้ควายตัวดังกล่าวนั้นกำลังติดสัตว์ซึ่งทางด้านชาวบ้านเชื่อว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้น่าจะเกิดจากการที่ควายนั้นหวงตัวเมียของตนเองคิดว่าทางด้านเจ้าของนั้นจะเข้ามาใกล้ตัวเมียของตนเองจึง ได้คุ้มครองและทำร้ายร่างกายเจ้าของจนเสียชีวิต

         สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้สามารถเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่เลี้ยงสัตว์ได้เป็นอย่างดีว่าต่อให้เลี้ยงมาตั้งแต่สัตว์ชนิดนั้นเป็นตัวเล็กๆก็อาจจะมีบางครั้งที่จะตัดจะหงุดหงิดหรือเกิดการคุ้มคลั่งได้เพราะฉะนั้นไม่ควรที่จะไว้ใจสัตว์มากจนเกินไป

ควรจะสังเกตของอาการของสัตว์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าร้อนที่อากาศร้อนมากๆอาจจะคลุ้มคลั่งได้ง่ายและอาจจะทำร้ายเจ้าของได้โดยที่มันไม่ตั้งใจเพราะฉะนั้นเพื่อลดอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจึงค่อนข้างจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังหากต้องเข้าใกล้สัตว์

 

สนับสนุนโดย.   เครดิตฟรี gclub