ดงละครเมืองโบราณนครนายก

แว่วเสียงของมโหรีปี่พาทย์ จากเมืองลับแลที่ดงละคร จังหวัดนครนายก 

ความมืดทึบของต้นไม้ที่มีจำนวนมากที่เรียกว่าเมืองโบราณดงละคร ในพื้นที่ของจังหวัดนครนายกได้สร้างความน่าสะพรึงให้กับผู้คนที่ด้พบเห็นเป็นอย่างมาก ซึ่งในสมัยก่อนนั้นก็มากไปด้วยของความเชื่อและในคำบอกเล่าว่าในสถานที่แห่งนี้เป้นที่ตั้งของเมืองลับแลเสียงดนตรีปี่พาทย์ที่บรรเลงแว่วมากับสายลมในสำหรับคืนวันพระจึงได้ทำให้ขนลุกไปตามๆกันเพราะเชื่อว่ากันเสียงของดนตรีปริศนาที่ดังมาจากเมืองลับแลถึงแม้ในปัจจุบันกลิ่นอายของเมืองลับแลดงละครก็ยังมีกลิ่นคุงเต็มไปหมดอาถรรพ์ความศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนเมืองลับแล

ก็ยังคงก้องอยู่ในความรู้สึกสำหรับใครที่ได้เข้าสัมผัสก็จะรู้สึกได้ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นพื้นที่ธรรมดาแน่ๆสำหรับเมืองโบราณดงละครซึ่งได้เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ได้ร่ําลือกันว่าได้มีเมืองลับแลซ่อนอยู่และได้กล่าวกันว่าสำหรับในวันพระเมืองในยามโพล้เพล้ผู้คนนั้นมักจะได้ยินเสียงผู้คนทั้งผู้หญิงและผู้ชายและเด็กเล็กนั้นได้คุยกันและบางคืนก้จะเป้นเสียงของเครื่องดนตรีไทยของ มโหรี ปี่พาทย์ หรือได้กลิ่นดอกไม้หอมอบอวลออกมาจากข้างในป่ามีความเชื่อกันว่าต้องเป็นของคนชาวเมืองลับแลแน่ๆ ที่พวกเขากำลังจะเก็บดอกไม้นำมาบูชาพระนั่นเองเพราะเชื่อกันว่าในทุกๆวันพระนั้นประตูมิติที่เชื้อมกันระหว่างโลกมนุษย์และของเมืองลับแลจะถูกเปิดออก

ซึ่งจะทำให้มนุษย์นั้นอาจจะได้ยินเสียงบางอย่าหรือได้สัมผัสกับเสียงบางอย่างที่มีความลี้ลบเหล่านี้ได้  ซึ่งชาวบ้านในละแวกนี้ได้มีความเชื่อกันมาแต่เดิมว่าบริเวณที่ดงละครนั้นได้เป็นที่ตั้งของเมืองลับแลที่มนุษย์นั้นไม่อาจสามารถที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อลักษณะในการแต่งกายของคนชาวเมืองลับแลนั้นจะคล้ายกับของคนมนุษย์ในกานทำไร้ไถนาหรือเลี้ยงสัตว์หรือทำหัตถกรรมต่างๆ สำหรับที่มาที่ไปของชื่อดงละครก็ได้มาจากตำนานพื้นบ้านที่ได้เล่าขานกันมาว่าในคืนวันเพ็ญชาวบ้านในแถวนั้นมักจะได้ยินเสียงของปี่พาทย์แว่วดังมาตามป่ามาเรื่อยๆ

แต่ก็ไม่สามารถหาสาเหตุของต้นตอมาได้ว่าเสียงนั้นมันดังมากจากที่ใดทำให้ชาวบ้านขานนามว่าดงละคร คือ ดงที่มีเสียงละครนั่นเอง ตามความเชื่อของชาวบ้านถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่น่าสนใจ และทำให้เรื่องราวโด่งดังจนมีการเล่าขานโดยปากต่อปากเป็นเวลายาวนานมาจนถึงทุกวันนี้

 

ขอบคุณ วิธีเล่นบาคาร่าให้ได้เงิน ผู้ให้การสนับสนุนเรื่องราว