การกอการร้ายของ นายosama Bin laden

นายosama Bin laden หลังยุคสงครามเย็นสหรัฐอเมริกาเป็นมหาอำนาจโลกเพียงหนึ่งเดียวมีบทบาทสำคัญในการชี้นำเมืองเศรษฐกิจ

และสังคมของโลกประเทศต่างๆต้องเผชิญกับการจัดระเบียบโลกใหม่ที่ถูกกำหนดขึ้นโดยสหรัฐอเมริกา อาทิตย์ปัญหาการค้าเสรีที่มีการควบคุมประโยชน์ที่จะได้ประโยชน์จากประเทศคู่ค้า จึงเกิดการต่อต้านจัดระเบียบโลกใหม่ของสหรัฐอเมริกาอย่างกระบวนการการก่อการร้าย 

การสูญเสียอำนาจสหรัฐอเมริกาในอิหร่านส่งผลทำให้ต้องปรับเปลี่ยนนโยบายสถานะทางการทหารเป็นการตั้งกองกำลังเคลื่อนที่เร็วหรือ rdf พร้อมกองบัญชาการในตะวันออกกลาง US Centrum Command เรียกกันโดยทั่วไปว่าเส้นคอม

เพื่อเตรียมรองรับสถานการณ์วิกฤตอ่าวเปอร์เซียครั้งที่ 1 ในคริสต์ศักราช 1990สหรัฐอเมริกาและพันธมิตรถือสิทธิการเพิ่มอำนาจโดยการใช้อาวุธต่อประเทศอื่นให้แก่ตนเองเป็นการฝ่าฝืนกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศทั้งปวงอ้างความชอบธรรมของหลักการโจมตีล่วงหน้าก่อนถูกรุกราน 

นอกจากนี้การใช้หลักการอยู่ฝ่ายเดียวโดยไม่ต้องรอการตัดสินใจจากคณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วยเหตุผลอันไม่ทันการต่อภัยชนิดใหม่ 

เหตุวินาศกรรมนายอีเลฟเว่นในวันที่ 11 กันยายนคริสตศักราช 2001 หรือพุทธศักราช 2544 นับเป็นปฏิบัติการการก่อการร้ายที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เป็นการโจมตีการพลีชีพที่ประสาน4 ครั้งต่อเนื่องในมหานครนิวยอร์กและพื้นที่ในกรุงวอชิงตันDC สหรัฐอเมริกา เมื่อเวลา 8:45 น ตามเวลาท้องถิ่นเครื่องบิน 2 ลำแรกตู้ชนกับตึกแฝด Vertex the center ที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ 

นอกจากนี้ยังตามมาด้วยรำที่ 3 ที่ได้เข้าชนตึกเพนตากอนเวอร์จิเนียที่ตั้งกรมกลาโหมของสหรัฐอเมริกาที่รัฐเวอร์จิเนียและรำที่ 4 ที่ตั้งใจจะไปชนสภาคองเกรสที่ washington dc แต่ผู้โดยสารพยายามที่จะยึดเครื่องบินกลับคืนทำให้เครื่องบินไปตกที่รัฐShenzhen ทั้ง 4 เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตกว่า 300 คน 

ซึ่งในเดือนถัดมาสหรัฐและชาติพันธมิตรอย่างสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียได้ยกกองทัพบุกอัฟกานิสถานเพื่อขับไล่รัฐบาลตาลีบันและตามล่านาย osama Bin laden กับกลุ่มกอาดิดา ที่ทางสหรัฐเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายในคราวนี้ 

สงครามต่อต้านการก่อการร้าย War of Emperor จึงได้เปิดฉากขึ้นซึ่งจะกลายเป็นสงครามที่ยืดเยื้อยาวนานนับ 10 ปีสหรัฐต้องสูญเสียทหารไปเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับพลเรือนอัฟกานิสถานที่กลายเป็นเหยื่อของสงครามในคราวนี้

3 ปีต่อมานาย osama Bin laden ผู้นำผู้ก่อการร้ายกออีดะได้ออกมายอมรับว่าเป็นผู้บงการเหตุวินาศกรรมในครั้งนั้นและได้กล่าวถึงเหตุจูงใจที่ทำให้ก่อเหตุเพราะสหรัฐให้ความสนับสนุนอิสราเอลคงกำลังทหารประจำการเอาไว้ที่ซาอุดิอาระเบียและทำสงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งที่ 1 ในปีคริสต์ศักราช 1990-1991การลงโทษอีรักถือว่าเป็นการจะยุติสงครามการก่อการร้ายของ osama Bin ladenได้นั่นเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  www.ufabet.com ลิ้งเข้าระบบ